โรคภูมิแพ้อากาศ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ไม่ "แพ้"



"ภูมิแพ้อากาศ" สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย และมักกำเริบในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ หรือมีภูมิต้านทานต่ำ โดยเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อจมูกเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ โดยจมูกของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อากาศนั้น จะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศมาก เมื่อเจอกับปัจจัยกระตุ้น ความชื้นในอากาศ อุณหภูมิที่ร้อน-เย็น กลิ่นฉุน สารก่อภูมิแพ้อื่นๆ จะมีลักษณะอาการจาม คัดจมูก มีน้ำมูกไหล มีเสมหะ บางรายอาจมีอาการระคายเคืองมากจนเกิดอาการคันตา แสบตา ร่วมด้วย

สาเหตุการเกิดโรคภูมิแพ้อากาศ
• กรรมพันธุ์ : พ่อแม่ เคยเป็นภูมิแพ้ หอบหืด จะมีความเสี่ยงในเด็กที่เกิดมาเป็นโรคนี้สูงขึ้นด้วย
• สภาพอากาศ : อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนเกินไป หรือ หนาวเกินไป สถานที่ที่มีความชื้นสูง จะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองได้
• สภาพแวดล้อม : สถานที่อยู่ใกล้กับผู้ที่สูบบุหรี่ ที่ที่มีสารเคมี ควัน มลพิษในอากาศอาจทำให้เกิดอาการของโรคได้


วิธีป้องกันการ "แพ้"
• หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควันรถยนต์ ควันบุหรี่ ควันธูป กลิ่นน้ำหอมแรงๆ สารเคมีต่างๆ เพื่อไม่ให้อาการภูมิแพ้กำเริบ
• ดูแลความสะอาดภายในบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการกักเก็บฝุ่น
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และทำให้อาการโรคภูมิแพ้ค่อยๆ ดีขึ้นด้วย
• ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็ได้อย่างนั้น” ถ้าเรากินแต่สิ่งที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน ผัก และผลไม้ ก็จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ ถือเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
• พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการซ่อมแซม ฟื้นฟู และปรับสมดุล ในช่วงเวลานอนพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นไม่ควรเข้านอนดึกจนเกินไป
• พบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อปรึกษาแพทย์ใช้ยาตามที่แพทย์วินิจฉัย และปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด


☎️สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 552 8777
#CGHHospital #CGHSaimai #CGHLamlukka

สมัครรับข่าวสาร

อัพเดทข้อมูลข่าวสาร แพ็กเกจและโปรโมชั่น ส่งตรงถึงคุณเป็นคนแรก

Top